เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับบัญชี

ผู้ทำบัญชีที่มีคุณสมบัติต้องดำเนินการอย่างไร

พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ตามมาตรา 7(6) ได้ให้อำนาจอธิบดีกรมทะเบียนการค้ากำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี และอธิบดีกรมทะเบียนการค้าได้ออกประกาศกรมทะเบียนการค้า เรื่อง กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี พ.ศ.2543 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2544 เป็นต้นไป ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1.ใครคือผู้ทำบัญชี
ผู้ทำบัญชีตามประกาศดังกล่าว ได้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

1.1 กรณีที่เป็นพนักงานของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ผู้ทำบัญชีคือ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี สมุห์บัญชี หัวหน้าแผนกบัญชี หรือผู้ดำรงตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเช่นเดียวกับ ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
1.2 กรณีที่เป็นสำนักงานบริการรับทำบัญชี
1.2.1 สำนักงานที่มิได้จัดตั้งในรูปคณะบุคคล ผู้ทำบัญชี คือ หัวหน้าสำนักงาน
1.2.2 สำนักงานที่จัดตั้งในรูปคณะบุคคล ผู้ทำบัญชี คือ ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งรับผิดชอบในการให้บริการรับทำบัญชี
1.2.3 สำนักงานที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล ผู้ทำบัญชี คือ กรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งรับผิดชอบในการให้บริการรับทำบัญชี
1.3 บุคคลธรรมดา กรณีเป็นผู้รับจ้างทำบัญชีอิสระ
1.4 ผู้ช่วยผู้ทำบัญชี กรณีที่ผู้ทำบัญชีรับทำบัญชีเกินกว่า 100 ราย
1.5 บุคคลอื่นนอกจากที่ระบุ ตาม 1.1 – 1.4

คุณวุฒิของผู้ทำบัญชีที่กำหนด พิจารณาตามขนาดของธุรกิจและตามประเภทนิติบุคคล ดังนี้

กลุ่ม 1 ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน และบริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ณ วันปิดบัญชีในรอบปีที่ผ่านมา มีทุนจดทะเบียน ไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวม ไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้รวม ไม่เกิน 30 ล้านบาท
ผู้ทำบัญชี ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทางการบัญชีหรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาซึ่งทางทบวงมหาวิทยาลัย คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ เทียบว่าไม่ต่ำกว่าอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทางการบัญชี

กลุ่ม 2 ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน และบริษัทจำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียน สินทรัพย์รวม หรือรายได้รวม รายการใดรายการหนึ่ง เกินกว่าที่กำหนดในกลุ่ม 1 และธุรกิจที่มีความสำคัญ คือ บริษัทมหาชน จำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร ผู้ประกอบธุรกิจธนาคาร เงินทุน หลักทรัพย์ เครดิตฟองซิเอร์ ประกันชีวิต ประกันวินาศภัย และผู้ประกอบธุรกิจซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
ผู้ทำบัญชี ต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชี หรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาซึ่งทบวงมหาวิทยาลัย หรือคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หรือกระทรวงศึกษาธิการ เทียบว่าไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชี

2. ผู้ทำบัญชีต้องปฏิบัติอย่างไร
ผู้ทำบัญชีที่มีคุณสมบัติ ต้องแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการทำบัญชีตามแบบแจ้งการทำบัญชีของผู้ทำบัญชี (แบบ ส.บช. 5 ) ภายใน 60 วัน นับแต่ วันที่ 10 สิงหาคม 2544 (10 สิงหาคม – 9 ตุลาคม 2544) หรือนับแต่วันเริ่มทำบัญชีแล้วแต่กรณี โดยยื่นแบบ ส.บช. 5 พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
2.1 สำเนาหลักฐานการศึกษา (ประกาศนียบัตร / อนุปริญญา / ปริญญาพร้อมทรานสคริป) 1 ฉบับ
2.2 สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้อย่างละ 1 ฉบับ
2.3 รูปถ่ายครึ่งตัว หน้าตรง ไม่สวมหมวก ขนาด 1 นิ้ว ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป (ส่วนภูมิภาค จำนวน 3อนึ่ง ท่านสามารถdownload แบบ ส.บช.5 จากเว็บนี้โดยคลิกไปที่แบบพิมพ์ต่าง ๆ

3. การแจ้งเป็นผู้ทำบัญชี
การแจ้ง มี 2 วิธี
ยื่นแบบแจ้งการทำบัญชีของผู้ทำบัญชีด้วยตนเอง

  • กรณีผู้แจ้งมีที่อยู่หรือสถานที่ทำงานในกรุงเทพฯ และ จังหวัดนนทบุรี ยื่นที่ สำนักกำกับดูแลธุรกิจ กรมทะเบียนการค้า เลขที่ 44/100 ถนนนนทบุรี1 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 พร้อมสำเนาแบบแจ้ง 1 ชุด
  • กรณีผู้แจ้งมีที่อยู่หรือสถานที่ทำงานในส่วนภูมิภาค ยื่นที่สำนักงานทะเบียนการค้าจังหวที่มีที่อยู่หรือสถานที่ทำงานตั้งอยู่ พร้อมสำเนาแบบแจ้ง 2 ชุด ยื่นแบบแจ้งการทำบัญชีของผู้ทำบัญชีทางไปรษณีย์
  • ส่งแบบแจ้งการทำบัญชีของผู้ทำบัญชีพร้อมเอกสาร ไปยังสถานที่ตามที่อยู่